สัญญาจะซื้อจะขายประกอบด้วย 10 ส่วน ได้แก่ รายละเอียดสัญญา รายละเอียดอสังหาริมทรัพย์ของคู่สัญญา ราคาขาย และรายละเอียดการชำระเงิน รายละเอียดการโอนกรรมสิทธิ์ รายละเอียดการส่งมอบที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง การโอนสิทธิ์และการแทนผู้ขายผิดสัญญาระงับ ข้อกำหนดและเงื่อนไขอื่นๆ และลายมือชื่อคู่สัญญาและพยาน สามารถดาวน์โหลด สัญญาจะซื้อจะขาย pdf กรม ที่ดิน ได้หน้าเว็บไซต์ ซึ่งในแต่ละองค์ประกอบมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ส่วนประกอบของ สัญญาจะซื้อจะขาย pdf กรม ที่ดิน
ส่วนที่ 1 รายละเอียดการจัดทำสัญญา
ส่วนนี้มักจะปรากฏเป็นส่วนหัวของสัญญา ให้บันทึกวันและเวลาที่ทำสัญญารวมทั้งสถานที่ที่ทำสัญญานี้ หากไม่มีการกำหนดเวลาเริ่มต้นให้สัญญามีผล ให้ถือว่าข้อตกลงมีผลตั้งแต่วันที่ปรากฏในมาตรานี้
ส่วนที่ 2 รายละเอียดของคู่สัญญา
คู่สัญญาในสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินและอาคารระบุไว้ในส่วนนี้ โดยจะใช้รายละเอียดตามที่แสดงบนบัตรประชาชนซึ่งสำเนาบัตรประชาชนจะเป็นเอกสารแนบท้ายสัญญาจะซื้อจะขาย
ส่วนที่ 3 รายละเอียดอสังหาริมทรัพย์
ส่วนนี้แสดงรายละเอียดของทรัพย์สินที่จะซื้อและขาย เช่นหากเป็นสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง เช่น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ จะแสดงเลขที่โฉนดที่ดิน (น.ส.4) เลขที่บ้าน ที่ตั้งของที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง เนื้อที่ ขนาดและจำนวน สิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน
ส่วนที่ 4 ราคาขายและรายละเอียดการชำระเงิน
ส่วนนี้ระบุว่าราคาใดที่ทั้งสองฝ่ายตกลงซื้อและขายอสังหาริมทรัพย์ โดยระบุจำนวนเงินเป็นตัวเลขและตัวอักษรและระบุชัดเจนว่าราคาซื้อขายมีส่วนที่ต้องฝากกี่บาท เป็นการจ่ายเงินสด หรือหากชำระด้วยเช็คธนาคาร ให้ระบุ ธนาคาร สาขา เลขที่เช็ค วันที่ และจำนวนเงินที่จ่าย พร้อมระบุจำนวนเงินที่เหลือชำระในวันทำสัญญาซื้อขายบ้าน สัญญาซื้อขาย ที่ดิน หรือโอนกรรมสิทธิ์
ในกรณีที่มีการวางเงินดาวน์ก็ระบุในส่วนนี้ไปเลยว่ารวมแล้วเงินดาวน์เป็นจำนวนกี่บาท จะแบ่งการชำระเป็นกี่งวด ชำระเมื่อไร และชำระครั้งละกี่บาท
ส่วนที่ 5 รายละเอียดการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์
สาระสำคัญของมาตรานี้คือการกำหนดวันทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมอาคารและจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ สามารถกำหนดเป็นวันที่แน่นอนหรือจำนวนวันหลังจากทำสัญญาจะซื้อจะขายก็ได้แต่ต้องมีวันที่สามารถทราบได้แน่นอนว่าจะต้องทำสัญญาเมื่อใด ซึ่งในส่วนนี้ถือเป็นสาระสำคัญของสัญญาจะซื้อจะขาย
ก็จะมีระบุชัดเจนว่าจะไปทำสัญญาซื้อขายกับสำนักงานที่ดินแห่งใด มีการกล่าวถึงค่าใช้จ่ายในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ เช่น ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ อากร ภาษีธุรกิจเฉพาะ ค่านายหน้า และภาษีหัก ณ ที่จ่าย
ส่วนที่ 6 รายละเอียดการส่งมอบที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
ในส่วนนี้ระบุว่าผู้ขายจะส่งมอบที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างให้แก่ผู้ซื้อภายในกี่วันหลังจากจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ และเมื่อไหร่ที่ผู้ซื้อจะได้รับโอกาสในการตรวจสอบที่ดินและอาคารก่อนโอนกรรมสิทธิ์?ซึ่งหากตรวจสอบพบว่าถูกต้องตามที่ระบุไว้ในสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ก็จะทำการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ต่อไป
ส่วนที่ 7 การโอนสิทธิ์และคำรับรองของผู้จะขาย
ในบางกรณีจะมีข้อกำหนดจากผู้ขายเกี่ยวกับการโอนสิทธิ์ของผู้ซื้อไปยังบุคคลอื่น ผู้ขายสามารถระบุในสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง “บังคับ” ไม่ให้ผู้ซื้อโอนสิทธิ์ให้ผู้อื่นได้ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้ขาย
นอกจากนี้ บางรายยังระบุเพิ่มเติมไปด้วยว่าถ้าผู้จะซื้อต้องการโอนสิทธิไปยังบุคคลอื่นจะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการโอนสิทธิให้แก่ผู้จะขายในอัตราครั้งละกี่บาท และผู้ที่รับโอนสิทธิก็จะต้องอยู่ภายใต้ข้อตกลงของสัญญาฯ นี้เช่นกัน
ส่วนคำรับรองของผู้จะขายนั้นเป็นการเรียกร้องจากผู้จะซื้อให้ผู้จะขายรับรองว่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่จะซื้อจะขายนี้ไม่มีภาระผูกพันใด ๆ อยู่ รวมถึงบังคับผู้จะขายว่าจะต้องไม่นำที่ดินไปก่อให้เกิดภาระผู้พันใด ๆ ขึ้นอีกนับแต่ทำสัญญาจะซื้อจะขายขึ้น
ส่วนที่ 8 การผิดสัญญาและการระงับสัญญา
ในส่วนนี้จะกล่าวถึงการบังคับใช้สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมอาคาร จะมีผลอย่างไรต่อคู่สัญญาเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดสัญญา? การผิดสัญญาจะแบ่งเป็นสองกรณี
– กรณีที่ 1 หากผู้ซื้อผิดสัญญาไม่จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์และชำระส่วนที่เหลือผู้ขายสามารถริบเงินมัดจำที่วางไว้ตอนทำสัญญาจะซื้อจะขายทั้งหมดได้
– กรณีที่ 2 ในกรณีที่ผู้ขายผิดสัญญาที่จะไม่จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่ผู้ซื้อ สัญญาดังกล่าวให้สิทธิแก่ผู้ซื้อในการฟ้องผู้ขายเพื่อบังคับให้ผู้ขายปฏิบัติตามสัญญา รวมทั้งมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายต่าง ๆ
ส่วนที่ 9 ข้อตกลงและเงื่อนไขอื่น ๆ
ข้อกำหนดเพิ่มเติมที่ตกลงกันล่วงหน้าโดยคู่สัญญาในกรณีที่เกิดปัญหา เช่น การจ่ายเงินล่าช้าหรือการขอคืนเงิน คู่สัญญามีสิทธิคิดดอกเบี้ยซึ่งกันและกัน โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยและกำหนดให้เริ่มคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ผิดนัดกรณีที่เลื่อนหรือผ่อนผันกระทบสิทธิของแต่ละฝ่ายอย่างไร? และหากมีการร้องขอหรือจัดส่งเอกสารใด ๆ จะส่งไปที่ใด ส่วนใหญ่จะส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนและผู้รับเอกสารรับทราบเมื่อได้รับจดหมายดังกล่าว เป็นต้น
ส่วนที่ 10 การลงชื่อของคู่สัญญาและพยาน
หลังจากที่คู่สัญญารับทราบและเข้าใจเนื้อหาของสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างแล้วเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดนิติสัมพันธ์โดยการแสดงเจตนาของสัญญา มีผลบังคับใช้ระหว่างคู่สัญญาสัญญาจะซื้อจะขายจะทำเป็นสองฉบับและมอบให้คู่สัญญาฝ่ายละหนึ่งฉบับ