บ้านสไตล์ รีสอร์ท เป็นอีกหนึ่งแบบบ้านในฝันที่หลายคนอยากมีไว้ครอบครอง ที่ล้อมรอบด้วยพื้นที่สีเขียวของต้นไม้ จึงทำให้บ้านสไตล์รีสอร์ทมีบรรยากาศที่ร่มรื่นเหมือนได้พักผ่อนในโรงแรมสวย ๆ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายในทุกวันของการอยู่อาศัย ความหรูหรามักถูกตีความได้หลายแบบ สำหรับบางคนอาจหมายถึงการก่อสร้างที่มีการออกแบบที่ซับซ้อน ใช้วัสดุราคาแพงที่เปล่งประกายราวกับอัญมณีที่บ่งบอกถึงรสนิยมอันเหนือระดับ แต่สำหรับบ้านสไตล์รีสอร์ทนั้น จะเน้นไปที่ “ธรรมชาติ” แทน เพื่อให้เป็นบ้านสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง เราเห็นภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยต้นไม้ วัสดุตกแต่งบ้านที่พิถีพิถันในการเลือกใช้ของตกแต่งสไตล์มินิมอล

บ้านสไตล์รีสอร์ทมีลักษณะอย่างไร

เอกลักษณ์ของบ้านสไตล์ รีสอร์ทที่ทำให้ใครหลายคนหลงใหลในมนต์เสน่ห์จนอยากมีไว้ครอบครอง เป็นบรรยากาศที่ผ่อนคลายทั้งภายในและภายนอกรอบบ้าน ให้ความรู้สึกเหมือนพักผ่อนในโรงแรมหรือบ้านพักตากอากาศในเมืองท่องเที่ยวซึ่งรวมถึง

  1. นำวัสดุจากธรรมชาติ เช่น ไม้ หิน เหล็ก ปูนเปลือย มาใช้เป็นส่วนประกอบหลักของบ้าน
  2. บ้านตกแต่งด้วยหน้าต่างกระจกบานใหญ่เพื่อรับแสงจากธรรมชาติ บ้านดูกว้างขึ้นและมองเห็นวิวสวย ๆ ด้วยกัน
  3. มักจะออกแบบให้มีเพดานสูงกว่าบ้านทั่วไป ซึ่งนอกจากจะให้ความรู้สึกโปร่งโล่งสบายแล้วยังช่วยระบายความร้อนภายในบ้านอีกด้วย
  4. สไตล์ของบ้านส่วนใหญ่เน้นความเรียบง่าย มีขนาดชั้นเดียวหรือสองชั้น
  5. มีพื้นที่เปิดโล่งสำหรับนั่งเล่นรับบรรยากาศธรรมชาติ เช่น พื้นที่ชมสวน หรือพื้นที่พักผ่อนริมสระน้ำ
  6. มีพื้นที่สีเขียวของต้นไม้ในสวนเพิ่มความร่มรื่นให้บ้านดูกลมกลืนกับธรรมชาติ สร้างบรรยากาศให้เหมาะแก่การพักผ่อนเหมือนอยู่ในโรงแรม

โดดเด่นด้วยดีไซน์บ้านสไตล์รีสอร์ทที่ผสมผสานการอยู่อาศัยกับธรรมชาติอย่างกลมกลืน จึงทำให้บ้านสไตล์นี้ใช้สำหรับที่พักตากอากาศ เช่น โรงแรม รีสอร์ท ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ทะเล ภูเขา ก็ออกแบบให้กลมกลืนกันได้อย่างลงตัว

หลายคนอยากได้บ้านสไตล์รีสอร์ทสักหลังไว้ใช้ในชีวิตประจำวันเป็นพื้นที่พักผ่อนจากความวุ่นวายของชีวิตในเมือง ส่งผลให้มีผู้ประกอบการหลายรายนำไอเดียบ้านสไตล์รีสอร์ทไปใช้กับโครงการของตนเองเช่นกัน

บ้านสไตล์รีสอร์ทเหมาะกับใคร

แม้ว่าบ้านสไตล์ รีสอร์ทจะเป็นที่ชื่นชอบของหลาย ๆ คน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสร้างบ้านสไตล์รีสอร์ทได้ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และใช้พื้นที่ค่อนข้างมากเพราะมีจุดเด่นที่พื้นที่สีเขียวเพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและให้ร่มเงาบังแสงแดดภายในบ้าน หากใครมีพื้นที่จำกัดคงไม่เหมาะกับอาคารสไตล์นี้

นอกจากนี้ยังมีรีสอร์ทประเภทอื่น ๆ เช่น บ้านเดี่ยว ซึ่งเหมาะกับสถานที่ท่องเที่ยว เช่น ภูเขา ชายทะเล ริมแม่น้ำ ทุ่งนา หรือในสวนขนาดใหญ่ ด้วยจุดเด่นที่เน้นวิวธรรมชาติเพื่อให้ได้บรรยากาศแห่งการพักผ่อนอย่างเต็มที่ หากต้องการสร้างบ้านสไตล์รีสอร์ทในเมืองเหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่กว้างเพื่อให้มีพื้นที่พักผ่อนสบายตา

บ้านสไตล์รีสอร์ทเหมาะแก่การลงทุนอย่างไร

สำหรับผู้ที่มีที่ดินผืนใหญ่ในจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยวหรือเมืองรองที่มีทรัพยากรธรรมชาติสวยงาม การลงทุนซื้อบ้านหรือสร้างบ้านสไตล์รีสอร์ทเพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนของนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่มาเช่าพักอาศัยระยะสั้นในรูปแบบ Workation เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานที่บ้าน ก็ถือเป็นการลงทุนที่น่าสนใจ

ทุกวันนี้มีผู้ประกอบการสร้างบ้านสไตล์รีสอร์ทให้เลือกมากมาย ที่สามารถออกแบบและให้คำปรึกษาในการสร้างบ้านสไตล์ รีสอร์ท ซึ่งถ้ามีที่ดินตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพในเรื่องทัศนียภาพที่สวยงามเหมาะแก่การพักผ่อน มีความเป็นส่วนตัว และการเดินทางก็ไม่ลำบาก

การสร้างบ้านหรือซื้อบ้านสไตล์รีสอร์ทก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่ว่าจะซื้อเพื่ออยู่เอง หรือซื้อเพื่อลงทุน เพราะมีทั้งคนไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนไม่น้อยที่อยากมีบ้านพักสไตล์รีสอร์ทเป็นที่พักตากอากาศเวลาไปเที่ยว หรือบางคนอาจลงทุนเพื่อการอยู่อาศัยระยะยาวในช่วงวัยเกษียณ

มีสิ่งใดบ้างที่บ่งบอกว่านี่คือบ้านสไตล์รีสอร์ท

บ้านที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายในแบบบ้านสไตล์ รีสอร์ท เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานออกแบบ และตกแต่งให้เป็นบ้านสไตล์รีสอร์ทเพื่อให้ทุกวันของการใช้ชีวิต เสมือนได้พักผ่อนอยู่เสมอ ปัจจุบันการออกแบบบ้านสไตล์รีสอร์ทได้รับความนิยมเนื่องจากการตกแต่งที่ไม่ยากเกินไปเพียงแค่เพิ่มบรรยากาศ บางส่วนเข้ามา เช่น สวนรอบบ้าน ตกแต่งประดับประดาด้วยแสงวอร์มไวท์ให้ดูโรแมนติกกว่าสวนทั่วไป

  1. สระว่าย น้ำอีกส่วนที่มีในรีสอร์ทถ้ามีไว้ในบ้านก็เล่นน้ำได้ มันยิ่งเป็นส่วนตัว คุณสามารถเล่นเมื่อไหร่ก็ได้ที่ต้องการเล่น แต่อย่างไรก็ตาม บางทีอาจต้องเหนื่อยกว่านี้สักหน่อย หากไม่มีผู้ดูแลเฉพาะที่บ้าน หลายบ้านจึงพึ่งพาบริษัทดูแลสระว่ายน้ำของหมู่บ้านโดยมีค่าใช้จ่ายรายเดือน หรืออาจจะเป็นครั้งเดียว
  2. ห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก ออกแบบให้ดูสวยสะดุดตา ด้วยโคมไฟ ตลอดจนชุดโซฟาขนาดใหญ่พร้อมปลอกหมอนหลากสี ทำให้ดูสว่าง น่าพักผ่อนยิ่งขึ้น ประตูที่สวยงามควรเป็นประตูแบบบานพับสองชั้น หรือบานพับที่สามารถเปิดกว้างและมองทะลุออกไปด้านนอกได้
  3. ห้องนอนรีสอร์ท การออกแบบห้องในบ้านทั่วไปมักนิยมรวมเอาข้าวของเครื่องใช้ ให้อยู่ในห้องนอน เช่น ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง หากต้องการเปลี่ยนบ้านให้เป็นรีสอร์ท ควรแบ่งห้องดังกล่าวแยกห้องนอน ได้ห้องที่โปร่งโล่ง กว้างสบาย ไม่ดูรก เพราะของมักจะวางระเกะระกะไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งก็อาจกั้นห้องเล็ก ๆ เป็นโซน ๆ
  4. ห้องน้ำเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ห้องน้ำควรออกแบบให้กว้าง เพราะห้องน้ำเป็นอีกส่วนที่ช่วยเติมเต็ม เพื่อสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย คลายเครียด แยกโซนเปียกโซนแห้งเพื่อความสะอาด ซึ่งง่ายต่อการตกแต่งด้วยต้นไม้กระถาง